วันนี้มีเหตุการณ์มุมแดงมุมน้ำเงินระหว่างน้องในทีม 2 คน คนนึงอยู่มุมแดง อีกคนอยู่มุมน้ำเงิน ข้างๆ คน 2 คนมีพวกพ้องที่ฟัง คิด สนับสนุน เชียร์อยู่ด้วย
หลังจาก 2 คนชกกันเสร็จ พี่ก็อยากจะเห็นใจ แต่เอาจริงๆ พี่แอบสะใจปนขำเล็กๆ เพราะอะไรรู้ไหม..เพราะพี่เคยบอกทั้ง 2 ฝั่งมาแล้ว ว่าการคุยกันมันยังมีแก๊ป มันยังมีช่องว่าง ทั้งๆ ที่ 80% เป็นเรื่องเล็กเท่าขี้มด แต่พอสาดใส่กัน คนนึงเสียงดัง อีกคนตะโกนทับ คนนึงตะคอก อีกคนกระแทกกลับ สรุป..ฟัดกันแทบตาย เจ็บสาหัสทั้งคู่ ไม่ได้อะไรเลย..สุดท้าย งานก็ต้องทำ ปัญหาก็ต้องแก้ (ที่ผิด คือ แก้เป็นงานๆ ไป ไม่แก้ที่ต้นเหตุ ทำให้ต้องแก้ซ้ำซาก..555 ขอใช้คำนี้)
น้อง 2 คน วันนี้เลือกที่จะไม่มาหาพี่ ทั้งๆ ที่บอกไว้แล้วว่า คุยไม่รู้เรื่องปุ๊บ ส่งไม้ต่อมา พี่จะเคลียร์ให้..แต่เอาวะ..เพื่อความสะใจ กูโทรไปด่ามึง..แหม มึงก็โทรมาได้จังหวะ…กูขอด่ากลับหน่อยละกัน..พี่ก็ปล่อยสิคะ..ด่ากันบันเทิงไปเลย..ข้างๆ หูผึ่ง..ด่าๆๆๆๆๆ
จบ! โมโหแมร่ง กระแทกหูใส่..แล้วอารมณ์ก็เสียทั้งคู่ คนนึงเดินไปด่าไป อีกคนนั่งหน้าหงิกที่โต๊ะ..พี่ละขำ อยากจิสมน้ำหน้า เอ้ย อยากเอากระจกเรื่องนี้มาส่องให้ดูอารมณ์ของตัว ก่อนและหลังด่ากัน ว่ามันดีขึ้นหรือมันแย่ลง..แต่นี่คือสิ่งที่น้องเลือกเองนะ..ต่อให้พี่ตะโกนห้าม น้องก็ไม่หยุด..ก็เอาเลย..กัด เอ้ย ด่ากันไปเลย พี่สอนทีเดียวตอนจบนะ
เรามามองมุมแดงกันบ้าง (อยากให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา) มุมแดงบอก “พี่ ใบเตือนต่ออายุ ออกทุนไปสูง ล้านกว่าบาท ลูกค้าแจ้งต่อตามใบเตือน พอคีย์งานระบบออกทุนต่ำมา ลูกค้าไม่ยอม พอเค้า/มุมน้ำเงิน ให้ทุนเพิ่มสุดๆ ได้ 890,000 หนูโทรคุยกับลูกค้า ยังไงก็ไม่ยอม งานวีไอพีด้วยพี่ เค้าขู่จะฟ้องผู้บริหาร”
แล้วงัยต่อ “หนูเลยให้พี่อีกคน โทรไปคุยกับเค้า/มุมน้ำเงิน ขอจบที่ 900,000 ตามที่ลูกค้าขอ พี่คนนั้นบอกว่า เค้า/มุมน้ำเงิน ให้ทำเรื่องมาเลย เดี๋ยวอนุมัติให้” แล้ว …”พอหนูออกสลักหลังไป เค้า/มุมน้ำเงิน มาว่า ว่าผิดขั้นตอน เชื่อใจไม่ได้ประมาณนี้”..ในใจคงคิด กรูผิดอะไร 555
ต่อที่มุมน้ำเงิน “หนูอนุมัติทุนให้แล้ว 890,000 แล้วอยู่ดีๆ ก็ส่งงานผ่านระบบมา 900,000 อันนี้ คืออะไร ถ้าคุยกับลูกค้าแล้วไม่ได้ จะเป็น 900,000 ก็ต้องส่งเมลมา ไม่ใช่ส่งผ่านระบบมาแบบนี้ ถ้าพวกหนูไม่ตรวจสอบ เท่ากับอนุมัติงานไปผิดๆ แบบนี้เชื่อใจกันได้เหรอ?”
เป้ง! พัก ยกที่ 1
อะไรหายไปเอ่ย?
ท่อนที่บอกว่า “หนูเลยให้พี่อีกคน โทรไปคุยกับเค้า/มุมน้ำเงิน ขอจบที่ 900,000 ตามที่ลูกค้าขอ พี่คนนั้นบอกว่า เค้า/มุมน้ำเงิน ให้ทำเรื่องมาเลย เดี๋ยวอนุมัติให้”
งัยคะ 😉
อันนี้พูดยาก เพราะมี “พี่อีกคน” เข้ามาเกี่ยวละ มาเป็นตัวแปรเพิ่ม แล้วแถมตอนจบ “พี่อีกคน” กับ เค้า/มุมน้ำเงิน ยืนคนละจุดซะด้วย คนนึงบอก คุยแล้ว อีกคนบอก ไม่ได้คุย..5555 ไม่เป็นไร เรามาต่อกัน
พี่เลยถามย้ำมุมน้ำเงินกลับไปว่า มีพี่อีกคนโทรมาคุยหรือเปล่า มุมน้ำเงินตอบว่า “พี่ ถ้าโทรมาคุยจริง หนูก็ต้องบอกว่า ให้ทำเรื่องมา”
เป้ง! พัก ยกที่ 2
มีอะไรเหมือนกันเอ่ย?
“ทำเรื่อง” งัยคะ
มุมแดง มองว่า มันคือ การออกสลักหลังผ่านระบบมาโลด
มุมน้ำเงิน มองว่า ไม่ใช่โฟ้ย ทำอีเมลมาก่อนจะได้เก็บเป็นเอกสารอ้างอิง (อันนี้ คิดในใจ)
วุ้ย..ละทำไม ไม่สื่อกันชัดๆ ว่าจะให้ทำอะไร จะได้เข้าใจตรงกัน..รึถ้าสื่อมา ไม่แน่ใจ ก็ถามย้ำไปว่า ให้ทำนี่ๆ ใช่ไหม เนะ จะได้ไม่คิดกันไปคนละแบบ 😉
เป้ง! พัก ยกที่ 3
สรุปเลยละกัน เรื่องของเรื่องไม่ได้มีอะไร มุมน้ำเงินแค่ขออีเมลฉบับนึงมาก่อน ทีหลังอย่าทำผ่านระบบไม่ตรงกับที่คุยกันไว้ จบ
แต่ที่มันเป็นเรื่อง เพราะอะไรคะ??
คำพูดของมุมแดง “แล้วระบบผิดเธอจะไม่ช่วยรับผิดชอบเลยเหรอ?” “ลูกค้าไม่ยอม ลูกค้าด่า แค่ 10,000 เดียว แค่นี้ไม่ได้เหรอ?”
ทีนี้มามองมุมน้ำเงินบ้าง “พี่ ใบเตือนผิดเป็นปัญหาซ้ำซาก ทั้งประชุม ทั้งพูด ทั้งส่งเมล ว่ามันผิดเพราะตอนออกกรมธรรม์ปีแรก น้องคนเดิมใส่ code งานผิดกลุ่ม ทำให้ทุนไม่เคยปรับลดจากปีแรก ให้ทางไอทีแก้ระบบให้แล้ว และบอกว่า งานที่มี code กลุ่มนี้ ต้องตรวจอีกรอบ ก่อนส่งใบเตือน ไม่ใช่ไม่ตรวจแล้วส่งออกไป”…
พูดแล้ว พูดอีก ส่งแล้ว ส่งอีก…อืมม
พี่ว่า ปัญหาอยู่ที่การสื่อสาร..การสื่อสารง่ายๆ มี 2 ทาง มีผู้รับสาร และผู้ส่งสาร..จะสื่อสารให้ดี คือ สื่อแล้วสารต้องไปถึง ถึงแล้วต้องเข้าใจสิ่งที่เราต้องการจะสื่อ..ปัญหาอยู่ที่ตัวเราสื่อออกไปไม่ถึง หรืออยู่ที่คนรับสาร ที่รับไปแล้วแต่ไม่เข้าใจ หรือหนักกว่านั้น คือสารนั้น ไม่เคยไปถึงเลย..กรรม
ถ้าเป็นพี่ พี่จะคิดวิธีสื่อสารใหม่ เลือกสารใหม่ เลือกคนรับใหม่..ทำอย่างไรก็ได้ ให้สารนั้นไปถึง..ไม่ใช่นั่งบ่นทุกวันๆ ว่าสื่อแล้วๆๆ 5555 สื่อละไม่สำเร็จ พี่ไม่นับแต้มให้นะ
ส่วนคนรับสาร..เมื่อรับสารมาแล้วไม่เข้าใจ ก็ต้องหาทางทำให้เข้าใจ รับเองไม่เข้าใจ ถามกลับไปที่คนส่งสารไหม หรือมีใครช่วยอธิบายชั้นได้ไหม..หรือ ถ้าไม่เคยรับสารนั้นเลย แต่โดนบ่นตลอดทุกครั้ง หงุดหงิดใส่ทุกหน..ถามกลับเลยไหม มีอะไรให้เราปรับแก้รึเปล่า..ถามไปแบบงงๆ นี่หล่ะ
แต่เท่าที่ฟังจากที่มุมแดงถาม เหมือนเธอจะไม่เคยทราบเบื้องหลังอันนี้มาก่อนนะ
ทีนี้ มาฟังคำพูดของมุมน้ำเงินบ้าง “เธออ่านเมลบ้างรึเปล่า เขียนคุยกันไปตั้งเยอะ อ่านเข้าใจไหม?” “ทำงานแบบนี้ จะเชื่อใจกันได้ไหม?”
เจอใครว่าอย่างนี้ เป็นเราๆ ก็รู้สึกแย่เนอะ 5555
เอาน่า ข้อดีอย่างนึงคือ น้องๆ พยายามอย่างดีที่สุด ในการแก้ปัญหา เพื่อความพึงพอใจของลูกค้า
แต่พี่อยากให้น้องออกจากมุมของตัวเอง แล้วลองเดินไปอยู่ในจุดของอีกฝ่ายนึงบ้าง
ถ้าเราเข้าใจว่า มุมน้ำเงินจะอนุมัติงานได้ต้องมีเหตุผลประกอบ เราจะต้องส่งอีเมลพร้อมเหตุผลประกอบ ที่ไม่ใช่ คำพูดที่ว่า เป็นวีไอพี และ ลูกค้าไม่ยอม
ถ้าเราเข้าใจมุมแดงว่า โดนลูกค้ากดดัน เพราะเอกสารที่ออกให้ลูกค้าไม่ตรงกับสิ่งที่ระบบบันทึก และเมื่อลูกค้าขออีก 10,000 บาทอันนี้ เราพิจารณาให้ได้ไหม..ถ้าเธอไม่ส่งเมลมา ชั้นส่งไปยืนยันให้เธอแทนได้ไหม
และสุดท้าย..ทุกวันนี้ เราเครียดกันจะแย่ งานเยอะกันจะตาย..อยู่ละ..เราก็คนทำงานเหมือนกัน งานมีปัญหา เราก็ต้องแก้ไขเหมือนกัน..อย่างนั้น เรามาช่วยกันแก้ไขดีไหม? 🙂
ถ้าเปลี่ยนบทสนทนาวันนี้ ให้สั้นเข้า
เป็น “ใบเตือนผิดเพราะอะไรเหรอ เราจะแก้กันยังงัยได้บ้าง?”
เป็น “ลูกค้าไม่ยอมเหรอ เธอส่งเมลมาอีกทีได้ไหม?”
พี่ว่า น้องทั้ง 2 คน คงไม่สาดใส่กันแล้วเจ็บ (ใจ) ทั้งคู่ขนาดนี้นะ..ดึกแล้ว น้องคงนอนหลับ หลังจากพ่นๆๆ ให้คนใกล้ชิดฟัง 5555 แต่พี่ว่า เหนือสิ่งอื่นใด ความเข้าใจกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน จะให้ผลดีในระยะยาวมากกว่า อย่างน้อย เราก็มีบ่ายที่ดีๆ เพิ่มขึ้นอีก 1 วัน แทนที่จะเป็นบ่ายที่แย่ๆ เนอะ
ปล. เรื่องนี้เป็นเรื่องสมมติ พี่มโนเองบางส่วน เค้าโครงเรื่องจริง อาจไม่ได้ดราม่าขนาดนี้..แค่เอาไว้เป็นตัวอย่างจ๊ะ 55555
ปล2. ถ้าพรุ่งนี้ น้อง 2 คน มาขอโทษที่สาด (อารมณ์) ใส่กัน หรือยิ้มให้กัน พี่ว่าก็คงดีนะ..ผู้ชายเค้าชกกันเสร็จ ก็จับมือกันได้นะ..เค้าให้เรามาทำงาน อย่ามีเรื่องส่วนตัวกันเลย พี่ขอ 555555