เป็นอีกเรื่องนึงที่อยากอัพบล้อกมาสักเดือนนึงได้ละ ต้องรีบบอกก่อนว่า อัพเรื่องนี้ไม่ใช่อัพสดๆ คือ เรื่องที่ดึงให้อยากอัพนี่มันเกิดมาสักพักละ ไม่ต้องเอาไปโยงกับใคร หรือบริษัทไหน…วุ้ย ปวดหัว..
เหมือนเราจะพูดเรื่องค้างคาว พอหนูได้ยิน ก็หาว่าพูดถึงหนู..พอนกได้ยิน ก็หาว่าพูดถึงนก..เอ้อ ก็นกมีหู หนูมีปีกนี่นะ คิดกันเข้าไปได้..เรื่องบางเรื่องไม่ได้ต้องเป็นการโพสต์ว่าใครที่ไหนหรอกค่ะ..สบายใจก็อ่านเนอะ ไม่สบายใจก็ไม่ต้องอ่าน..เห็นด้วยก็กดไลค์ ไม่เห็นด้วยก็ผ่านไปหรือจะคอมเม้นท์ต่างไป อุ้มก็ยินดีรับฟัง..อย่างที่บอกว่านี่มันความคิดเห็นส่วนตัว เป็นบันทึกความรู้สึก ความทรงจำ ณ ขณะหนึ่ง..บางเรื่องก็เอาไว้สอนตัวเอง บางเรื่องก็เอาไว้สอนคนอื่น..อย่าคิดมากค่ะ นกและหนูทั้งหลาย อุ้มแค่พูดถึงค้างคาว 555
เข้าเรื่องดีกว่า..วันก่อนมีโอกาสใช้บริการสายการบินโลว์คอสแห่งหนึ่ง….แหน่ะ!!..ออกตัวดังเอี้ยดดด…บอกเลย ไม่เคยทำงานกับสายการบินแห่งนี้ ดังนั้น เลิกมโน เลิกโยง เลิกสร้างสตอรี่ บัดเดี๋ยวนี้ค่ะ 5555
ที่บอกว่า การบริหารงานบางอย่างก็ส่งต่อไปไม่ถึงนั้น จะอ้างถึงสมัยเรียน ป. โท มี case study ให้ศึกษา เรื่องการบริหารสายการบิน low cost ซึ่งตอนนั้นพูดถึง Virgin Airlines ที่เป็นต้นแบบของสายการบิน low cost หลายสายในปัจจุบัน
ในเนื้อหาบอกว่า การที่จะดำเนินธุรกิจสายการบิน low cost นั้นต้องมีระเบียบวินัย อย่างเข้มงวด ต้องรัดเข็มขัดทุกกระเบียด เพื่อให้ต้นทุนในการดำเนินงานต่ำมากๆ พอที่จะทำราคาตั๋วเครื่องบินถูกมากๆ ซึ่งต้นทุนมหาศาลของสายการบิน ก็มาจากการเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งนอกเหนือจากวิสัยทัศน์ที่ไกลพอ ที่จะบริหารสต๊อกน้ำมันให้มีราคาที่ต่ำ มีปริมาณพอใช้ ซื้อไว้ล่วงหน้าแล้ว จะต้องทำทุกอย่างให้เครื่องบินอยู่ในสนามบินแบบมีระยะเวลารอบินน้อยที่สุด เพื่อไม่ให้เสียเวลาและเผาผลาญน้ำมันไปโดยใช่เหตุ
จะเห็นว่า สายการบินเหล่านี้จะไม่เสิร์ฟ hot food และส่วนใหญ่ไม่มีขายด้วย เพราะกว่าอาหารจะมา กว่าจะลำเลียง ใช้เวลานาน..เป้าหมาย คือ พอเครื่องลงจอด รีบเอาคนลง ขยะให้มีน้อยมากๆ เก็บก่อนลง พอคนลงหมดปุ๊บ รีบเอาคนขึ้น แล้วรีบบินต่อทันที บินก็บินสั้นๆ วนไปวนมา หลายๆ รอบต่อวัน..คิดได้ง่ายๆ ประมาณนี้
ทีนี้ ก็มาพูดถึงสายการบินที่ตัวเองใช้บริการ และเกิดการดีเลย์ทั้งขาไปและขากลับ ก็สังเกตจากการทำงานของพนักงาน ที่ล้วนแล้วแต่เป็นการทำให้เวลาที่เครื่องจะขึ้นบินได้นั้นช้าไปมากเลยทีเดียว
เริ่มแรก คือ มาจากการที่เที่ยวบินก่อนหน้านี้มาถึงช้าก่อน พอเอาคนเที่ยวบินเราขึ้นเครื่องครบ ก็ปรากฎว่า ไม่มีคิวขึ้นบิน ต้องรอบินอีก 15 นาที ก็เผาน้ำมันรอไป ผู้โดยสารก็รู้ชะตาชีวิตละ ว่านอกจากเครื่องจะมาถึงช้า จะขึ้นยังขึ้นไม่ได้อีกต่างหาก…อันนี้เบาๆ 555
ขากลับ เริ่มที่ check in counter เลย สมมติว่า flight เราเป็นรอบบ่าย 2 ซึ่งตอนแรกเปิดเลย 3 counters ปนๆ กันทุก flights..ทีนี้พอเวลากระชั้นเข้ามาสำหรับ flight บ่าย 2..สายการบินเลยเปิด counter ที่ 1 เป็น flight บ่าย 2 เท่านั้น ส่วน flights อื่นๆ หลังจากบ่าย 2 ให้ไป check in ที่ counter 2 และ 3
เราเองก็เข้าใจเจตนาได้ง่ายๆ เลยว่า การบริหารหน้าเคาน์เตอร์คงเปิด counter 1 เฉพาะขึ้นมาเพื่อให้ flight บ่าย 2 ที่กำลังจะตก flight นั้นได้มีเคาน์เตอร์เฉพาะ ส่วน flights อื่นๆ ที่ยังพอมีเวลา ก็ให้ไปรอคิวได้ทั้งเคาน์เตอร์ 2 และ 3 😊
แต่ในทางปฏิบัติ ปรากฎว่า มีผู้โดยสาร flight บ่าย 2 ที่กำลังจะตกเครื่อง ดันเข้าแถวผิด ไม่ได้มองป้ายว่าให้ไปเคาน์เตอร์ 1 (ซึ่งอาจจะต่อเป็นคิวที่ 4) แต่ในขณะนั้น เธอต่อเคาน์เตอร์ 2 มาจนเป็นคิวที่ 1 แล้ว!!..แปลกแต่จริง พนง.หน้าเคาน์เตอร์ 2 บอกว่า คุณมาผิดแถวแล้ว กรุณาไปต่อแถวที่ 1 ใหม่…เพื่อ??? เอิ่มม เคาน์เตอร์พิเศษนี้เค้าเปิดมาเพื่อระบาย flight บ่าย 2 ให้มันเร็วทันเวลานะ…แล้วป้าคนนี้บ่าย 2 จะตกเครื่องอยู่ละ ป้าก็ยืนจะยื่นใบจองให้ละ จะให้ป้าไปเริ่มใหม่ เพื่อ?? เราก็งงนะ….เง้อ
พอมาตอนตรวจตั๋วก่อนขึ้นเครื่อง ก็ทำอะไรแปลกๆ อีก..เคยเห็นสายการบินอื่น มีพนักงานตรวจตั๋ว 2 คน เข้าแถวได้ทีละ 2 แถว ซึ่ง พนง.ตรวจตั๋วนี้ ก็จะตรวจตั๋วและฉีกตั๋วไปเลย จบ..แต่สายการบินนี้ มาแปลกคร่า…มี 2 คนเหมือนกัน แต่ให้เข้าแถวเดียว..คือ ด่านที่ 1 พนง. คนแรก ตรวจก่อน ตรวจเสร็จไม่ฉีกตั๋ว ให้เราเดินไปเจอคนที่ 2 ที่ทำหน้าที่ฉีกอย่างเดียว…คิวมันก็ยาวสิคะ..ขั้นตอนนี้ก็นานมาก
แถมเวลาเรียกขึ้นเครื่อง แทนที่จะเรียกให้คนข้างหลังขึ้นเครื่องก่อน เพราะกว่าจะยกจะเก็บกระเป๋า จะได้ไปยืนเกะกะกันข้างในนู่น..คนข้างหน้าถัดมาจะได้ทยอยๆ เข้ามาเก็บ มันก็จะร่นระยะเวลาได้อีก…
แต่ สายการบินนี้ ให้ข้างหน้าขึ้นก่อนค่า…ก็รอไปสิ คาอยู่ตรงประตู รอจนกว่าข้างหน้า ตรงกลาง จะเก็บเสร็จ ข้างหลังถึงได้เข้าไปเก็บ เข้าไปนั่ง…ครบถ้วนกระบวนความ มีคนจะตกเครื่อง..เครื่องก็รอคร่า…คือ บางสายการบินถ้ามันดีเลย์มาก เค้าก็ต้องไปเลยนะ..อันนี้ดีเลย์มาตั้งแต่ต้นจนจบ ก็รอไปค่า..เสร็นสิ้นกระบวนการดีเลย์ไป 1 ชม. ถ้วน เวลามาตรฐานจริงๆ
ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ก็ไม่ได้ทราบหลักการบริหารสายการบินที่แท้จริงหรอกนะคะ เผอิญได้เคยอ่าน case study และเคยขึ้นสายการบินหลายสาย ก็เลยเปรียบเทียบให้ฟัง และก็คิดเอาเองว่า อ๋อที่มันช้าก็เพราะแบบนี้เองเนอะ..ถ้าเปลี่ยนวิธีใหม่ให้เหมือนสายการบินอื่น น่าจะเอาเครื่องขึ้นได้เร็วกว่านี้เนอะ……….เสียดายน้ำมันที่เผาผลาญไปเนอะ..แค่นั้นละคะ…จอ บอ จบ..จบนะคะผู้อ่านที่รักทุกคน 😊