Posted in บันทึกลูกรัก

ผมลูกคนเดียวครับ ^^

image

ช่วงนี้มีแต่คนทักว่าจะมีลูกสาวอีกคน เล่นเอาคนเป็นแม่ใจตุ้มๆ ต่อมๆ

อันที่จริง เรื่องความคิดที่ว่าจะมีลูกอีกคนหรือไม่ 2 คนกับคุณโอ๊ต คิดตั้งแต่ตอนน้องเอิร์ธอายุแค่ 2 ขวบ เพราะถ้าจะมีตอนนั้น อายุลูก 2 คน คงห่างกันพอดี

คำตอบที่เวลาโดนถามว่า “ทำไม ไม่มีลูกอีกคน?” เรามักจะตอบเล่นๆ ว่า “ไม่มีปัญญา 555 มีลูกคนนึงใช้เงินเยอะจะตาย” ถ้าตอบจริงจังขึ้นมาหน่อย เราก็จะตอบว่า “อยากรักแค่คนเดียว ทุ่มเทรักให้ไปหมดแล้ว ไม่น่าจะรักใครได้อีก” คิดอย่างนั้นจริงๆ

คนส่วนใหญ่ที่บอกให้มีลูกอีกคน มักจะบอกว่า “น้องเอิร์ธจะได้มีเพื่อนเล่น” ก็เคยถามน้องเอิร์ธ แม้ว่าน้องเอิร์ธจะยังเป็นเด็ก แต่เราอยากสอนให้เขามีเหตุผล และเขาควรเป็นผู้เลือก และตัดสินใจเอง

เคยถามเอิร์ธว่า “เอิร์ธอยากมีน้องมั้ยลูก?” น้องเอิร์ธตอบว่า “ไม่ครับ ผมอยากให้คุณพ่อคุณแม่รักผมคนเดียว” ถามต่อว่า “แล้วเอิร์ธไม่อยากมีเพื่อนเหรอครับ?” เอิร์ธคิด แล้วตอบว่า “ผมมีเพื่อนที่โรงเรียนเยอะแล้ว ถ้าผมกลับมาบ้าน ผมก็มีคุณพ่อคุณแม่” ถามต่อไปว่า “แล้วถ้าอีกหน่อย พ่อกับแม่แก่ แล้วจากไปละครับ?” เอิร์ธตอบว่า “ตอนนั้น ผมก็คงแต่งงาน มีครอบครัวของผมแล้วครับ”

ก็เลยเป็นความเห็นพ้องต้องกัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก ว่าเราอยู่กัน 3 คนก็พอแล้ว รักล้นบ้านไปหมด ^___^

พอตอนนี้ น้องเอิร์ธอายุ 6 ขวบ จู่ๆ ก็มีคนมาเชียร์ มาทักเยอะแยะไปหมด พอถามเอิร์ธ เอิร์ธก็ยังยืนยันตามเดิม ว่า ไม่อยากมีน้อง และเดี๋ยวนี้คุยกันเรื่องภาระค่าใช้จ่ายในบ้าน ทำให้เขาพอจะเข้าใจ ครั้งสุดท้ายที่คุย เอิร์ธแถมท้ายมาว่า “ถ้าผมมีน้อง ผมก็อดซื้อทองคำสิครับ” 555 อันนี้ เนื่องมาจากเอิร์ธกำลังตั้งหน้าตั้งตา อยากมีทองเป็นของตัวเอง เก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ จะใช้ จะซื้ออะไร คิดแล้วคิดอีก กลัวไม่ได้ซื้อทอง

ต้องขอขอบคุณสื่อการตลาดหลายแบรนด์ ที่ขนเอาการชิงโชค ลุ้นรับทองคำ มาให้ลูกน้อยได้เห็น ต่างที่ผู้บริโภคตัวน้อยคนนี้ ตีความไม่ตรงใจสื่อ ไม่ได้วิ่งซื้อ วิ่งกิน ลุ้นโชค แต่ดันเก็บเงินซื้อทองเอาเอง เพราะแม่บอกว่า “เค้าให้ไปชิงโชคอีกทีนะลูก มันก็มีโอกาสที่เราจะได้หรือไม่ได้” แล้วเอิร์ธก็เป็นคนไม่ชอบเสี่ยงโชค 555 ชอบเอาชัวร์ ก็เลยเก็บเงินเอา ^___^

วันนี้ นั่งปรึกษาคุณโอ๊ต ถึงลูกรักอีกคน (ลูกของเพื่อนรัก) ที่ตอนนี้อยู่ ปวช. ปี 1 ฟ้าอยากไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน กับแฟน แต่พ่อฟ้าคงไม่ให้ไป หันมาปรึกษามิ๊อุ้ม “อยากไปอ่ะมิ๊ ทำงัยดี?”

มิ๊ก็อยากให้ฟ้าได้ไปเที่ยวกับเพื่อนนะ ถามฟ้าว่าทำไม “พ่อไม่ให้ไป?” ฟ้าบอกว่า “ไปกันเอง พ่อไม่ให้ไป”…อืมมม มิ๊บอกฟ้าไปว่า
“มิ๊ก็ห่วงฟ้านะ ถ้าไปกันเอง แต่ก็อยากให้ฟ้าได้ไปเที่ยวกับเพื่อน มิ๊ขอคุยกับลุงโอ๊ตก่อนนะ”

เรื่องการตัดสินใจเรื่องลูกนี่ต้องปรึกษากัน หันไปถามคุณโอ๊ต ว่า “ถ้าเอิร์ธอยู่ ม.3 แล้วขอไปทะเลกับเพื่อน กับแฟนจะให้ไปมั้ย?”
คุณโอ๊ตตอบทันทีว่า “ให้ไป ไปเลย เป็นประสบการณ์”

แล้วหันกลับมาถามว่า “เอิร์ธถามเหรอ?” ก็เลยบอกไปว่า “ปล่าว ยัยฟ้าหน่ะ พ่อไม่ให้ไป” แล้วก็ถอนหายใจ..เฮ้ออ

คุณโอ๊ตรู้ทันแม่ตัวดี “นี่จะไปเป็นพี่เลี้ยงฟ้าเหรองัย?” แหม ใจก็อยากไปดูแลอยู่อ่ะ ถ้าเป็นเอิร์ธ แม่คงให้ไปเที่ยว แต่แม่ไปพักใกล้ๆ พักคนละที่ ไม่ไปยุ่ง ไม่ไปแอบดู แค่อยู่ใกล้ๆ ให้อุ่นใจทั้งแม่ทั้งลูก ว่าถ้ามีเหตุด่วนเหตุร้าย พ่อกับแม่จะไปถึงภายในไม่เกิน 10 นาที แค่นั้นหล่ะ

แต่พอเป็นฟ้า ไปกับเพื่อนที่มิ๊ไม่รู้จัก ไม่รู้ว่าจะคึก จะยั้งกันได้แค่ไหน ยิ่งเห็นรูปที่ฟ้าเมา อ้วกแตก ตอนไปงานวันเกิดเพื่อน ก็ยิ่งห่วง..ถ้าเอาลูกเขาไป แล้วดันมีปัญหา เราจะรับผิดชอบไหวเหรอ..ลูกเขาทั้งคน..ยิ่งคิดมิ๊ก็ยิ่งกลุ้ม

คุณโอ๊ตพูดให้คิดได้ว่า “มันต้องอยู่ที่เขาเลี้ยงดูกันมาอย่างไร ฟ้าได้ทำให้พ่อไว้ใจ พอที่จะปล่อยไปลองผิดลองถูกหรือไม่ ลูกเขา เขารู้ดี เราอยู่ห่างไป ตัดสินใจแทนไม่ได้”…

คุณโอ๊ตพูดต่อว่า “เค้าไปเที่ยวกับเพื่อนตั้งกะ ม.ต้น แล้ว” “แต่แอบไปนะ ที่บ้านไม่อนุญาต” ก็นั่นนะสิ
เราก็ห่วงเด็กวัยรุ่น จะหนีไปเอง ถ้าถูกขัดใจ

ในขณะที่ เราบอกว่า “เค้าไปตอน จบมหาลัย ไปเช้าเย็นกลับ” “เคยขอพ่อแม่ตอนมัธยมแล้ว พ่อกับแม่ให้ไป แต่บอกว่า ยังไงพ่อกับแม่ก็เป็นห่วงนะ ไม่อยากให้ไป แต่ให้ลูกตัดสินใจเอง” ซึ่งเราก็เลือกที่จะไม่ไป ต่างกับน้องชาย ที่ได้คำตอบเดียวกัน แต่ก็ไปทุกที แล้วปล่อยให้แม่นั่งรออยู่ริมหน้าต่างด้วยความ
เป็นห่วง

คุณโอ๊ต บอกว่า “มันอยู่ที่ตัวเด็กด้วย ถ้าเขาไปเจอ ไปลอง แล้วเขาจะเลือกยังไงต่อ..เรามีหน้าที่ที่จะต้องเตรียมความพร้อมให้เขา ให้เขาได้ลอง ในสิ่งที่ควรลอง ควรรู้ แล้วเขาจะได้พร้อม ที่จะเลือกเอง” “เรื่องของฟ้า เราไม่รู้จริงๆ”

มิ๊ก็ไม่รู้ว่า ฟ้าจะเข้าใจมิ๊หรือไม่ ที่มิ๊ปฏิเสธไม่โกหกพ่อให้ฟ้าว่าไปกับมิ๊ ด้วยความที่มิ๊เป็นคนไม่โกหก และที่สำคัญ มิ๊รับผิดชอบไม่ไหว เพราะมิ๊ยังไม่ได้ดูแลฟ้าใกล้ชิดพอ และมิ๊ก็ไม่รู้จัก เพื่อนฟ้า พอที่มิ๊จะไว้ใจ….

หันกลับมามองน้องเอิร์ธ ที่กำลังคลอเคลียพ่อกับแม่ไม่ห่าง คิดในใจว่า..
“น้องเอิร์ธโชคดีนะลูก ที่พ่อกับแม่คิด และเตรียมทุกอย่าง เพื่อให้ลูกเผชิญโลกใบนี้ได้ดีที่สุด ที่เหลืออยู่ที่ลูกจะเลือก และกำหนดชีวิตของลูกเองแล้ว..”

และก็อดยิ้มไม่ได้ว่า..มีลูกคนเดียวก็ล้นละเรา..

ผู้เขียน:

Experienced and qualified insurance professional..like to share ideas and knowledge

ใส่ความเห็น