วันนี้ตื่นแต่เช้า พาน้องเอิร์ธที่รักของแม่ไปขี่จักรยานที่สวนรถไฟ ปีนี้ตั้งใจไว้ว่าจะเป็นปีที่สร้างเสริมคุณภาพชีวิตตัวเอง
และครอบครัวให้ดีขึ้น ก่อนที่จะสายเกินไป เวลาคุณภาพที่พ่อกะแม่มีให่น้องเอิร์ธก่อนหน้านี้มัน
น้อยมาก และถึงเวลาจะเปลี่ยนแปลงได้แล้ว
ก่อนหน้านี้ พ่อกะแม่สงสัยว่าทำไมน้องเอิร์ธถึงเป็นเด็ก 2 บุคลิก บางครั้งก็สุภาพ อ่อนน้อม พูดเพราะ ไม่ดื้อ บางครั้งก็กลายเป็นเด็กขี้โมโห ชอบเขวี้ยงของ และตีพ่อแม่ จนได้ไปปรึกษาคุณหมอ เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมก่อนที่จะเป็นวัยรุ่น หมอบอกว่า น้องเอิร์ธไม่ได้ป่วยเลย เพียงแต่ขาดเวลาของพ่อและแม่
เด็กเล็กๆเวลาไปโรงเรียน เค้าก็เฝ้ารอที่จะได้เจอพ่อกะแม่ แต่ชีวิตคนเมืองทำให้พ่อแม่ที่ทำงานบริษัทมักจะต้องฝากลูกไว้ต่อที่โรงเรียน กว่าจะได้เจอกันก็ค่ำ แต่สำหรับพ่อกะแม่แล้ว ยิ่งทิ้งให้ลูกรอนานยิ่งกว่า เพราะฝากน้องเอิร์ธไว้ที่บ้านพี่เลี้ยง หลังจากอยู่โรงเรียนถึง 5 โมง กว่าพ่อกับแม่จะไปรับลูกก็ 3-4 ทุ่ม เลยทำให้เค้าเก็บอารมณ์ความโกรธ ความหงุดหงิด อยากงอแงไว้ทั้งวัน พอเจอพ่อกับแม่ก็ปล่อยอารมณ์เต็มที่ ถ้าพ่อกับแม่ไม่เข้าใจ ก็จะยิ่งพาลอารมณ์เสียไปกันใหญ่
แต่หลังจากนี้ไป เราจะใช้เวลาทุกนาทีให้มีคุณภาพด้วยกัน น้องเอิร์ธได้จักรยานคันใหม่มาขี่รอบหมู่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่ เราเตะบอล ตีลูกโป่งกัน และน้องเอิร์ธก็มีภารกิจที่ทำเพื่อคุณพ่อคุณแม่ ไม่ว่าจะเก็บของเล่น จัดบ้าน ทำภาพสติกเกอร์ วาดรูป เพื่อแลกรับดวงดาวแห่งความดี เอาไว้แลกซื้อของเล่น เพราะน้องต้องมีความอดทน ความพยายาม และรู้สึกคุณค่าของของที่น้องอยากได้ ต้องขอบคุณพี่แอ๋ว มิตรที่แสนดีที่แนะนำให้แม่รู้จักคลีนิกเด็กยิ้มแฉ่ง
หน้าที่ต่อไปของแม่ คือ การวางแผนอนาคตอันใกล้ เพื่อให้มีเวลาคุณภาพกับลูกของแม่มากขึ้น ไม่ว่าแม่จะย้ายไปอยู่ใกล้ลูก ก็ย้ายลูกมาอยู่ใกล้ๆแม่มากขึ้น หมอพูดให้พ่อกับแม่ได้คิดว่า ถ้าเราคิดว่าเราทำทุกอย่างเพื่อลูก ก็ให้ทบทวนอีกทีว่าเราทำดีที่สุดเพื่อเค้ารึยัง เวลาที่แม่ทำงานเกินเวลา แม่แบ่งมาใช้กับลูกได้มั๊ย เวลาที่พ่อยุ่งมาก พ่อแบ่งมาออกกำลังกับลูกได้มั๊ย
พ่อกับแม่จะพยายามปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงเพื่อลูก
พ่อกับแม่รักลูกมากครับ